ค่าไฟฟ้าปีหน้าส่อแววปรับขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) ว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าปีหน้า จะยังทรงตัวในระดับสูง โดยมีโอกาสเห็นค่าไฟเฉลี่ย (ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที กับค่าไฟฟ้าฐาน)
ทะลุระดับ 4 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบัน 3.71 บาทต่อหน่วยได้ หากรัฐบาลไม่ตรึงราคา เนื่องจากน้ำมันดิบดูไบยังเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงคือ 105-110 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าถึง 72% ให้ปรับตัวตาม
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาท ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น จากการเข้ามาเก็งกำไรของกองทุนเก็งกำไรข้ามชาติ ทำให้ช่วยลดผลกระทบได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ครอบคลุมได้มากนัก เนื่องจากค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. ได้ปรับขึ้นเพียง 18 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย จากต้นทุนจริง 38.24 สต.ต่อหน่วย โดยให้ กฟผ.รับภาระไปก่อน ทั้งนี้ ถ้าดูราคาน้ำมันและถ่านหิน จะยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ ขณะที่เขื่อนขนาดใหญ่ที่จะปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรเป็นหลัก แต่จะใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นเพียงผลพลอยได้ ในปีหน้าเชื่อว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) จะใช้วิธีตรึงค่าเอฟที โดยให้ กฟผ.แบกรับภาระ
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานเรกกูเลเตอร์ กล่าวว่าแนวโน้มค่าเอฟทีต้องดูปัจจัยราคาน้ำมันและค่าเงินบาทเป็นสำคัญแต่ทิศทางค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อต้นทุนค่าเอฟทีที่ต่ำลงได้ ซึ่งยอมรับว่าภาระเดิมที่ตรึงไว้ก็ยังมีอยู่ โดยปีหน้าหากมีแนวโน้มปรับขึ้นมากก็อาจต้องใช้วิธีเฉลี่ยค่าเอฟทีเช่นที่ผ่านมา.