นายประเสริฐ เมฆวัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะส่งผลให้ชาติอาเซียนต้องตื่นตัวเพิ่มศักยภาพการผลิต และการค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัว
นายนิลสุวรรณ ลีลารัศมี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมที่ต้องเร่งปรับตัวอย่างมาก เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน ได้แก่ อุตสาหกรรมยา เหล็ก เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอ และผลิตร่มกันแดด โดยธุรกิจยาจะต้องมีการยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมากขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมผลิตร่มกันแดด ที่เป็นสินค้าซึ่งสามารถเลียนแบบได้ง่าย ประเทศเพื่อนบ้านสามารถผลิตเองได้ ส่งผลให้การส่งออกไปตลาดเหล่านี้ลดลง ดังนั้น ต้องหาตลาดใหม่เพิ่มขณะเดียวกันไทยมีอุตสาหกรรมที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ได้แก่ อุตสาหกรรมแก้วและเครื่องแก้ว ยานยนต์และชิ้นส่วน พลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก หนังดิบ หนังฟอก เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ เป็นต้น ซึ่งจะมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมกลุ่มยานยนต์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ตลาดมูลค่าสูงมาก
นอกจากนี้ ภาครัฐต้องดำเนินนโยบายการหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้สามารถมีเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจได้